Skip to main content

โรงไฟฟ้าเสมือน (Virtual power plant) เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดของพลังงานทดแทน


เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ปี 2018 ที่ผ่านมา Tesla นำโดยนาย Elon Musk ผู้มีวัสัยทัศน์กว้างไกลทางด้านเทคโนโลยีเพื่ออนาคตที่ดีของมนุษยชาติได้ประกาศติดตั้งแผง Solar cell พร้อมทั้งแบตเตอรี่ให้แก่ 1,100 ครัวเรือน ในพื้นที่รัฐทางตอนใต้ของออสเตรเลีย การติดตั้งนี้จะขยายไปกว่า 25,000 ครัวเรือน ภายในปี 2019 เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของโครงการโรงไฟฟ้าเสมือน(Virtual power plant) [1] โดยที่โรงไฟฟ้าเสมือนนี้สามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าได้เทียบเท่ากับโรงไฟฟ้าจากการเผาไหม้ก็าซธรรมชาติและถ่านหินในพื้นที่ดังกล่าว โดยทางการประเทศออสเตรเลียกล่าวว่าโครงการดังกล่าวจะสามารถสนับสนุนพลังงานได้สูงถึง 20% ต่อการใช้งานในแต่ละวัน


หลักการทำงานของโรงไฟฟ้าเสมือนคือการรวบรวมการผลิตไฟฟ้าจากแหล่งต่างๆ จากทั้งพลังงานฟอซซิลและพลังงานทดแทนเข้าไว้ด้วยกัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดในการผลิตและแจกจ่ายไฟฟ้าให้แก่ผู้ใช้งาน [2,3]  นอกจากแหล่งกำเนิดพลังงานที่กล่าวไปข้างต้นแล้ว สิ่งที่เป็นองค์ประกอบสำคัญของโรงไฟฟ้าเสมือน คือ หน่วยจัดเก็บพลังงานหรือแบตเตอรี่ และเทคโนโลยีการสื่อสารผ่านทางอินเตอร์เน็ตของอุปกรณ์อิเล็คโทรนิคต่างๆหรือ internet of things (IoT) องค์ประกอบเหล่านี้จะประสานการทำงานผ่านศูนย์ควบคุมเพื่อตอบสนองการใช้งานไฟฟ้าให้พอเพียงต่อความต้องการอย่างมีประสิทธิภาพ


ทั้งนี้เนื่องจากข้อจำกัดของการผลิตไฟฟ้ารูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนที่ไม่มีความเสถียร เนื่องจากตัวแปรทางสภาพอากาศ เช่น พลังงานลม และพลังงานแดด หรือมลพิษจากการผลิตของโรงไฟฟ้าจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอซซิล การผลิตไฟฟ้าในรูปแบบทั้งสองนั้นยังคงต้องพึ่งพากันและกันอยู่ในปัจจุบันนี้ แต่อย่างไรก็ตามการลดหรือเพิ่มอัตราการผลิตจากการผลิตรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งเพื่อรองรับการผลิตในรูปแบบอื่นๆนั้นไม่สามารถที่จะทำได้อย่างรวดเร็ว ตามที่มีการอธิบายไว้ด้วยกราฟรูปเป็ด(Duck chart) [4] ในกรณีของพลังงานแสงอาทิตย์ โดยเมื่อการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์นั้นลดลงในช่วงเย็นของวันก่อให้เกิดความต้องการการใช้ไฟฟ้าสูงอย่างฉับพลัน เป็นสาเหตุให้การผลิตไฟฟ้าจากแหล่งอื่นๆต้องเข้ามารองรับความต้องการที่เกิดขึ้นอย่างกระทันหัน ซึ่งเป็นการยากในทางปฏิบัติเพราะการสนับสนุนไฟฟ้าจากแหล่งอื่นๆไม่สามารถตอบสนองความต้องการใช้ไฟฟ้านั้นได้ทันที ในทางตรงกันข้ามหากมีการผลิตไฟฟ้าเพื่อรองรับความต้องการทั้งหมดไว้ก็จะส่งผลให้เกิดการความเสี่ยงในการผลิตไฟฟ้าเกินกว่าความต้องการการใช้งานจริง


หนึ่งในการแก้ปัญหาดังกล่าวคือการนำแบตเตอรี่ที่สามารถแจกจ่ายไฟฟ้าได้อย่างรวดเร็วเข้ามาช่วยรองรับความต้องการการใช้ไฟฟ้าที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเมื่อปลายปี 2017 บริษัท Tesla ได้ทำการติดตั้งแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่สุดในโลกที่มีความจุสูงถึง 100 MW เพื่อจัดเก็บไฟฟ้าที่ผลิตได้เกินความจำเป็นจากแหล่งพลังงานลมในพื้นที่ทางตอนใต้ของประเทศออสเตรเลีย แบตเตอรี่นี้สามารถแจกจ่ายให้แก่บ้านเรือนได้ 30,000 ครัวเรือนเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมง ตัวแบตเตอรี่นี้มีโครงสร้างและหลักการทำงานแบบเดียวกับแบตเตอรี่ที่ใช้ภายในรถยนต์ไฟฟ้าของ Tesla ทั้งนี้หลังจากการติดตั้งแบตเตอรี่เพียงไม่กี่สัปดาห์ การทำงานของแบตเตอรี่นี้ก็ได้ถูกทดสอบ จากสภาพอากาสที่เลวร้ายที่ส่งผลต่อการจ่ายไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าหลักภายในพื้นที่ [5,6] การทำงานของแบตเตอรี่ดังกล่าวได้ตอบสนองความต้องการการใช้ไฟฟ้าในขณะนั้นได้ภายในช่วงเวลาน้อยกว่าหนึ่งวินาที


การทำงานของแบตเตอรี่นี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงศักยภาพของเทคโนโลยีแบตเตอรี่ในปัจจุบันทั้งนี้แบตเตอรี่ดังกล่าวสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนได้อย่างชัดเจน ถึงแม้ว่าจะต้องพึ่งพาการผลิตไฟฟ้าจากการเผาไหม้อยู่บ้าง แต่ด้วยเทคโนโลยีโรงไฟฟ้าเสมือนนี้ ความจำเป็นของการผลิตไฟฟ้าจากการเผาไหม้สามารถถูกจำกัดให้ลดลง ดังนั้นแล้วโครงการโรงไฟฟ้าเสมือนนี้คงจะเป็นอีกหนึ่งผลงานของ Tesla และนาย Elon Musk ที่น่าจับตามองในอนาคตอันใกล้นี้ ซึ่งยังจะเป็นตัวชี้นำทิศทางการใช้งานพลังงานทดแทนของมนุษยชาติต่อไปในอนาคตด้วย
อ้างอิง
[4] “Flexible resource to help renewables - Fast fact”, California ISO, 2016. (http://www.caiso.com/Documents/FlexibleResourcesHelpRenewables_FastFacts.pdf)

Comments

Popular posts from this blog

ไมโครชิปที่ความละเอียด 7nm กับอนาคตของ processor เมื่อมาถึงจุดสุดท้ายของ Moore's law

ชิป A12 bionic ที่มีความละเอียดขนาด 7nm (https://www.cnet.com/news/iphone-xs-a12-bionic-chip-is-industry-first-7nm-cpu/) ถูกพูดถึงพร้อมกับการเปิดตัว iPhone รุ่นใหม่เมื่อวันพุธ(12 ก.ย. 61)ที่ผ่านมานี้ ในเชิงของการใช้งานนั้นผู้ใช้อาจจะไม่รู้สึกตื่นเต้นกับฟังก์ชั่นของโปรดักส์ที่เปิดตัวซักเท่าไหร่ แต่ในทางเทคนิคแล้วเจ้าตัวชิปดังกล่าวเป็นเทคโนโลยีทีทันสมัยที่สุดในตอนนี้สำหรับ smartphone และอาจถือได้ว่าเป็นหัวเลี้ยวหัวต่อของเทคโนโลยี processor หรือไมโครชิปเพื่อก้าวไปสู้รูปแบบชิปและการประมวลผลรูปแบบใหม่ๆ ก่อนอื่นบทความนี้จะมาขยายความให้ผู้อ่านได้เข้าใจถึงความหมายของขนาด 7nm ในตัวชิปก่อน แล้วเราจะมาตามรอยการพัฒนาของไมโครชิปตลอดระยะเวลากว่า 40 ปีที่ผ่านมาด้วย Moore’s law และสุดท้ายเราจะมาคาดการณ์กันว่าเทคโนโลยี processor จะก้าวไปทางไหนต่อไปเมื่อขณะนี้เราอยู่ที่จุดสุดท้ายของ Moore’s law สิ่งแรกที่เราต้องรู้สำหรับตัว processor นั้นก็คือองค์ประกอบพื้นฐาน processor นั้นประกอบไปด้วย transistor (ทรานซิสเตอร์)ที่ทำหน้าที่เป็นสวิซเปิดปิดวงจร และด้วยการเปิดปิดนี้นำไปสู้การประมวลผลแบบดิจิตอลในระ...

สมดุลอุปสงค์อุปทาน Solar cell ตามแบบจำลอง “กราฟเป็ด (Duck chart)”

จากการเติบโตอย่างต่อเนื่องของอุตสาหกรรมด้านพลังงานทดแทนเช่น พลังงานลม พลังงานความร้อนใต้พิภพ พลังงานน้ำ และพลังงานแสงอาทิตย์ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการตระหนักถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของโลกจากการผลิตไฟฟ้าด้วยการเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิล ก๊าซธรรมชาติ และถ่านหิน อีกทั้งการดำเนินการตามข้อตกลงร่วมปารีส [1] ของนานาประเทศที่มีจุดประสงค์ในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเข้าสู่ชั้นบรรยากาศ เพื่อลดอุณหภูมิของโลกให้ต่ำกว่า 2 องศาเซลเซียส เหนืออุณหภูมิของโลกก่อนยุคการปฏิวัติอุตสาหกรรม ในส่วนของพลังงานแสงอาทิตย์หรือ Solar cell มีอัตราการเติบโตที่สูงขึ้นเมื่อเทียบกับพลังงานทดแทนอื่นๆ [2,3] ส่วนหนึ่งเป็นผลของราคาอุปกรณ์แผง Solar cell ที่ถูกลงอย่างต่อเนื่องตลอดหลายปีที่ผ่านมา หรือการปรับเปลี่ยนนโยบายพลังงานของภาครัฐในประเทศต่างๆ การติดตั้งแผง Solar cell จึงเป็นที่แพร่หลายทั่วโลก หนึ่งในตัวอย่างการใช้งานพลังงานแสงอาทิตย์ที่เห็นได้ชัดเจนและมีการเก็บข้อมูลการใช้งานอย่างเป็นระบบคือที่รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยปีที่ผ่านมาการผลิตไฟฟ้าจาก Solar cell ในรัฐนี้ได้เพิ่มสูงข...